หอศิลป์จิตรกรรม





19 พฤศจิกายน 2553 - 19 มกราคม 2554

ณ บริเวณวินมอเตอร์ไซด์รับจ้างข้างหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

เปิดงานนิทรรศการ: 19 พฤศจิกายน 2553
เวลา 18:00 น. ณ บริเวณวินมอเตอร์ไซด์รับจ้างข้างหอศิลปฯ


โดย กลุ่มศิลปินในนาม ชั่ว คราว
ภัณฑารักษ์ : สรศักดิ์ แซ่โง้ว , พิสิฎฐ์กุล ควรแถลง

ศิลปิน : ตะวัน วัตุยา,  ศุภพงศ์ เหล่าธีรศิริ,  สมโภชน์ แซ่อั่ง,  มิตร ใจอินทร์,  เก็ตโซ่ พงศ์รักธรรม,  อังกฤษ อัจฉริยโสภณ, ทวีศักดิ์ ศรีทองดี,  ยุรี เกนสาคู,  บริษัทย้อนแยงสุนทรียะและสหาย

แนวความคิด
           พื้นที่ทางศิลปะจากอดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีวิวัฒนาการมาอย่างหลากหลาย ในอดีตพื้นที่ทางศิลปะถูกสร้างขึ้นมาจากขอบเขตทางศาสนาที่ศิลปะได้กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งกับวิถีชีวิต แต่ต่อมาจากการจัดการที่ยึดถือตามแบบตะวันตก พื้นที่ทางศิลปะเริ่มมีขอบเขตและที่ทางเป็นของตัวเองเป็นเอกเทศจากสังคมในวงกว้าง สถานที่ที่สามารถจัดแสดงนิทรรศการตามที่ต่างๆ ก่อให้เกิดคุณประโยชน์อย่างสูงต่อวงการศิลปะ แต่ในขณะเดียวกันทำให้การรับรู้ถึงศิลปะ เป็นเอกเทศจากผู้คนกลุ่มอื่นในสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โครงการ หอศิลป์บริการ หยิบยกประเด็นในการสร้างพื้นที่ทางศิลปะที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตอันหลากหลายของผู้คนในสังคมปัจจุบัน โดยจุดประสงค์เพื่อให้ศิลปะสามารถแทรกซึมสู่ชีวิตประจำวันของผู้คนได้อีกครั้งหนึ่งเหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต แผนการดำเนินงานครั้งแรกของหอศิลป์บริการนี้คือ หอศิลป์จิตรกรรม ณ วินมอเตอร์ไซด์ โดยนำเสนอผลงานศิลปะจากศิลปิน 9 คน ด้านหลังเสื้อวินมอเตอร์รับจ้าง

Museum Serve Project

Artist Group:     Choa Kraw

Organized By:   Sorasak  Saengow,  Pisittakun  Kuntalang

Artst:   Tawan  Wattuya,  Supapong  Laodheerasiri,  Sompoch  Aung, Mit  Jai in,  Sitthinon
            Phongraktham, Angkrit  Ajchariyasophon,  Thaweesak  Srithongdee,  Yuree  Kansaku, 
            Yongyang Esthetics And Friends

Venue:           Motorcycle Station at Bangkok Art and Culture Centre
Period:          19 Nov 19 Jan 2011
Opening:       19 Nov 2010 at 18:00 pm. Motorcycle Station at Bangkok Art and Culture Centre

Concept:

            Artspace in Thailand was once weaved seamlessly into way of life within parameter of living Buddhism. As time progresses, the modernized methods of organizing and presenting art have affected a role of art in society. Space for art has grown a defined boundary and segregated its vital beats from general public. The Museum Serve project is a project exploring a new space for art as part of daily living, with a goal of injecting art into a stream of public as it once did in the past. The first exhibition, the FineArt Museum at Motorcycle Station, presents works of 9 artists behind jackets of motorcyclists. The artworks can be seen by passengers and onlookers as they ride along the street of Bangkok.



   
สมโภชน์  แซ่อั่ง                มิตร  ใจอินทร์                     ตะวัน  วัตุยา           




                             
อังกฤษ  อัจฉริยโสภณ       สิทธินนท์ พงศ์รักธรรม       ยุรี  เกนสาคู



ทวีศักดิ์  ศรีทองดี             ศุภพงศ์  เหล่าธีรศิริ          บ.ย้อนแยงสุนทรียะและสหาย

พี่สม                                    พี่บอย                                 พี่เณร



พี่จ่อย                                  พี่สัก                                    พี่ไก่





พี่ริน                                     พี่โด้                                     ลุงสน




กำหนดการให้บริการ



จุดหมายปลายทาง
DESTINATION

อัตราค่าบริการ
FARE

โรงแรมเอเชีย
ASIA HOTEL

เทสโก้ โลตัส  สาขา พระราม ๑
TESCO  LOTUS - RAMA1

สยามสแควร์

SIAM SQUARE

ตลาดกิ่งเพชร
KING PETCH MAKET

สถานีรถไฟฟ้า-พญาไท
BTS STATION PHAYATHAI

เพชรบุรี ซอย ๕
PHETCHABURI SOI 5

เพชรบุรี ซอย ๗
PHETCHABURI SOI 7

สี่แยกสามย่าน
SAMYAN INTERSECTION


พันธุ์ทิพย์พลาซ่า
PANTIP PLAZA


เดอะแพลทินัม  แฟชั่นมอลล์
THE PLATINUM FASHION MALL

เซ็นทรัลเวิลด์
CENTRAL WORLD

โรงบาลพญาไท ๑
PHAYATHAI 1 HOSPITAL

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
VICTORY  MONUMEMT

ตลาดโบ้เบ้
BOBAE MARKET

โรงแรมใบหยกสกาย
BAIYOKE SKY HOTEL

คิง พาวเวอร์ คอมเพล็กซ์ (ซอย รางน้ำ)
KING POWER COMPLEX  (SOI RANGNAM)

ชิดลม
CHIT LOM

พัฒน์พงศ์
PAT PONG

สถานีตำรวจบางรัก
BANG RAK POLICE STATION

ศาลาแดง
SALA DAENG

ท่าเรือสี่พระยา
SI PHRAYA PIER
นานา
NANA

สะพานควาย
SAPHAN KHWAI

สี่แยกฟอร์จูนเทาว์เวอร์
FORTUNE TOWER INTERSECTION

๒๐บาท
20 BAHT

๒๐บาท
20 BAHT

๓๐ บาท
30 BAHT

๓๐ บาท
30 BAHT

๔๐ บาท
40 BAHT

๔๐-๕๐ บาท
40-50 BAHT

๔๐-๕๐ บาท
40-50 BAHT

๕๐ บาท
50 BAHT


๕๐ บาท
50 BAHT


๕๐ บาท
50 BAHT

๕๐ บาท
50 BAHT

๕๐ บาท
50 BAHT

๕๐-๖๐ บาท
50-60 BAHT

๖๐ บาท
60 BAHT

๖๐ บาท
60 BAHT

๖๐ บาท
60 BAHT

๖๐ บาท
60 BAHT

๖๐ บาท
60 BAHT

๗๐ บาท
70 BAHT

๘๐ บาท
80 BAHT

๑๐๐ บาท
100 BAHT
๑๐๐ บาท
100 BAHT

๑๐๐ บาท
100 BAHT

๑๐๐ บาท
100 BAHT


หมายเหตุ : หากท่านผู้โดยสารมีความประสงค์จะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางอื่น ที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้โปรดติดต่อสอบถามจากผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง
FI  PASSENGER WOULD LIKE TO TRAVEL OTHER DESTINATION SRATHER THAN SPECIFIED,
PLEASE CONTACT OR ASK FROM MOTORCYCLISTS AT MOTORCYCLE TAXI STATION



9 ศิลปิน / 9 วินมอเตอร์ไซค์




ผลงาน























เบอร์  1

ศิลปิน       :  ศุภพงศ์  เหล่าธีรศิริ

วิน            :  พี่สัก

ชื่อผลงาน :  5,440 วินาที (พื้นที่และกาลเวลา)      ปีที่สร้าง  :  2553

เทคนิค      :  ปากกาหมึกกันน้ำบนผ้าใบ                   ขนาด      :  20 x 24 เซนติเมตร

แนวความคิด 

ข้าพเจ้าต้องการบันทึกเวลาให้ออกมาเป็นรูปธรรม โดยใช้วิธีการขีดเส้น ซึ่งการขีดเส้นหนึ่งขีดนั้นเป็นการเทียบเท่ากับเวลาหนึ่งวินาที พื้นที่ทั้งหมดของผืนผ้าใบถูกใช้เป็นพื้นที่บันทึกเวลา ดังนั้นผลงานชิ้นนี้จะสามารถแสดงระยะเวลาที่ใช้ในการสร้างภาพนี้ได้ด้วยตัวภาพของมันเอง ผ้าใบพื้นที่ขนาด 20 X 24 เซนติเมตร ได้แสดงเวลาในการวาดไปทั้งสิ้น 7,335 วินาทีเวลาในระบบมาตรฐานสากลทุกพื้นที่ย่อมมีเวลาเท่ากัน แต่เรามักพบความแตกต่างในการ
ใช้เวลาในแต่ละพื้นที่ ในแต่ละสถานการณ์ หรือในแต่ละช่วงอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งส่งผลให้ความรู้สึกหรือการรับรู้ที่มีต่อเรื่องเวลานั้น แสนสั้นหรือยาวนานแตกต่างกันออกไปดังเช่นเมื่อข้าพเจ้าได้เข้าไปใช้ชีวิตในกรุงเทพ ฯ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเวลาในกรุงเทพ ฯ นั้นมีน้อยมาก แต่ละวันหมดไปอย่างรวดเร็ว ต้องใช้ชีวิตด้วยความเร่งรีบ และมักจะเสียเวลาไปกับการเดินทางเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแตกต่างกับการใช้เวลาในจังหวัดเชียงรายอันเป็นบ้านเกิดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าสามารถเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วกว่า และรู้สึกว่าในหนึ่งวันมีเวลายาวนานมากกว่า...























เบอร์  2

ศิลปิน       :   มิตร  ใจอินทร์
    
วิน            :  พี่ริน

ชื่อผลงาน :  ไม่มี                                              ปีที่สร้าง  :  2553

เทคนิค      :  สีอะคริลิกบนผ้าใบ                           ขนาด      :  20 x 24 เซนติเมตร

แนวความคิด 

.............................................................................................................................



























เบอร์  3

ศิลปิน       :  สมโภชน์  แซ่อั่ง

วิน            :  พี่จ่อย

ชื่อผลงาน :  ไม่มี                                              ปีที่สร้าง  :  2553

เทคนิค      :  สีน้ำมันบนผ้าใบ                               ขนาด      :  20 x 24 เซนติเมตร

แนวความคิด 
...........................................................................................................................

























เบอร์  4

ศิลปิน       :   ยุรี  เกนสาคู

วิน            :   พี่สม

ชื่อผลงาน :   ขี่ม้าส่ง(ใน)เมือง                             ปีที่สร้าง  :  2553

เทคนิค      :   สีอะคริลิกและปากกาบนผ้าใบ           ขนาด      :  20 x 24 เซนติเมตร

แนวความคิด 

หลายต่อหลายครั้ง.....มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยให้ทันเวลา

สิ่งที่อยากบอกกับคนที่มาดูงาน

                 กรุณาสวมหมวกกันน็อคขณะชมผลงาน






เบอร์  5

ศิลปิน       :  สิทธินนท์ พงศ์รักธรรม

วิน            :  พี่เณร

ชื่อผลงาน :  ในเมฆฝน                                       ปีที่สร้าง  :  2553

เทคนิค      :  สีน้ำมันบนผ้าใบ                               ขนาด      :  20 x 24 เซนติเมตร

แนวความคิด 

              การแสดงออกถึงสภาวะทางอารมณ์ที่มีการสะสมมายาวนานจากการดำเนินชีวิตในสภาพสังคมแบบปัจจุบัน ที่ทำให้คนเราต้องจำยอมในบางอย่างโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ  การนำเสนอเรื่องราวผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ทางศิลปะเพื่อเป็นการวิเคราะห์และบำบัดตนเอง การปลดปล่อยเรื่องราวที่มาจากจิตสำนึกและจิตใต้สำนึกที่มีความบริสุทธิ์จริงใจ ไม่เฉพาะต่อผู้ชมงานเท่านั้นแต่ต่อตัวข้าพเจ้าที่เป็นผู้สรรค์สร้างเองด้วย ข้าพเจ้าต้องการให้เกิดการขยับขยายตัวทางการรับรู้และการปรับเปลี่ยนทัศนคติโดยผ่านรูปทรงของคนที่มีการลดทอนทางกายภาพให้ออกมาในเชิงกึ่งการ์ตูนผ่านกระบวนการทางเทคนิคที่เรียบง่ายเพื่อเปิดช่องให้้เกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวงานกับผู้ชมได้มากขึ้น

สิ่งที่อยากบอกกับคนที่มาดูงาน

               ขอให้ท่านจงเปิดใจรับชมผลงานให้เต็มที่เพราะเรื่องบางเรื่องที่ศิลปินได้นำเสนอออกไป อาจจะเคยเกิดขึ้นในบางช่วงเวลาของท่านหรือคนรอบกาย  ข้อคิดจากผลงานชิ้นเล็กๆอาจจะช่วยขยายคลี่คลายเรื่องราวบางอย่างในตัวท่านก็เป็นไปได้ใครจะไปรู้ว่ามั้ย




























เบอร์  6

ศิลปิน       :  ตะวัน  วัตุยา

วิน            :  พี่ไก่

ชื่อผลงาน :  Narkark Sear                                 ปีที่สร้าง   :  2553

เทคนิค      : สีอะคริลิกบนผ้าใบ                             ขนาด      :  20 x 24 เซนติเมตร

แนวความคิด 
.............................................................................................................................







เบอร์  7

ศิลปิน       :  บริษัทย้อนแยงสุนทรียะและสหาย

วิน            :   พี่บอย

ชื่อผลงาน :   ภาพเขียนที่หายไป                         ปีที่สร้าง   :  2553

เทคนิค      :   สีอะคริลิกบนผ้าใบ                           ขนาด       :  20 x24 เซนติเมตร

แนวความคิด 

                ภาพเขียนแรกที่ท่านเห็นเป็นเพียงของแถม................6 เดือนผ่านไป

ความจริงแท้................................จึงกำเนิด

สิ่งที่อยากบอกกับคนที่มาดูงาน

               ไม่ได้อยากบอกอะไรแค่อยากให้รู้สึกเฉยๆ อิๆๆๆ







เบอร์  8

ศิลปิน       :  อังกฤษ  อัจฉริยโสภณ

วิน            :   ลุงสน

ชื่อผลงาน :   101031                                        ปีที่สร้าง   :  2553

เทคนิค      :   ปากกาลูกลื่นบนผ้าใบ                     ขนาด       :  20 x 24 เซนติเมตร

แนวความคิด 
                
                ทุกสรรพสิ่งเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

สิ่งที่อยากบอกกับคนที่มาดูงาน

                 มองเห็นอย่างที่มันเป็น
    
                 “To see things as they really are”










เบอร์  9

ศิลปิน       :  ทวีศักดิ์  ศรีทองดี

วิน            :   พี่โด้

ชื่อผลงาน :   where are you ?                        ปีที่สร้าง   :  2553

เทคนิค      :   เทคนิคผสม                                    ขนาด       :  20 x 24 เซนติเมตร

แนวความคิด 

               ผมสนใจเกี่ยวกับ..ตัวตนของบุคคล  ในหลายๆบริบท...ที่ปรากฎเป็นภาพถ่าย เป็นภาพเคลื่อนไหว ฯลฯรวมไปถึง สถานที่ ที่ภาพบุคคลนั้น ไปปรากฎอยู่ เช่นอยู่ของบนผนัง อยู่ในหนังสือ ป้ายโฆษณา ฯลฯ
              
               ในการร่วมงานกับ หอศิลป์บริการครั้งนี้ เป็นโอกาสเหมาะ พอดี ผมเลือกภาพของบุคคลหนึ่ง คือ โอซามา บินลาเดน  Osama bin Laden  ให้อยู่ปรากฎอยู่บนเสื้อของวินมอเตอร์ไซด์ พร้อมกับข้อความ คำถาม where are you ?  ที่จะร่วมเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพมหานครคำตอบ...คือช่องว่าง ในอากาศ สำหรับ ผู้ชม ผู้โดยสาร และ ผู้ใช้บริการ


 

 

ประวัติศิลปิน


เกี่ยวกับศิลปิน

                   สมโภชน์ แซ่อั้ง เกิด 7 มกราคม 2504 ปีชวด จังหวัดระยอง วัยเด็ก หมู่บ้านยังไม่มีไฟฟ้า มืดต้องจุดตะเกียง ผีจะยืนแอบอยู่ตามต้นเสาทั่วไปหมด เปิดไฟหลอดนีออนครั้งแรกที่บ้านป้าแหม่ม คนในหมู่บ้านจะมายืนรอดู ดีใจ มันสว่างเหมือนกลางวันเลย ผีดูจะมีน้อยลงด้วย น้ำฝนก็กินได้หวานดี ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่ามะม่วงก็ขายได้ เดินไปโรงเรียนวันละ 2 กิโลฯ ตั้งแต่ ป.1 - ป.7 ช่วยหลวงพ่อถอนหญ้าข้างๆ โบสถ์ก็ได้ไปสวรรค์แล้ว อยู่โรงเรียนเขาสอนให้พูด ฉัน เธอ กลับมาที่หมู่บ้าน พูดกู มึง กันทั้งหมู่บ้านตอนกลางวัน โรงเรียนสอนเรื่องกาลิเลโอ ตอนเย็นที่หมู่บ้านผีตานุดเข้าสิงยายแบงค์ ผีตานุดกับกาลิเลโออยู่ห่างกันแค่โรงเรียนกับบ้านเท่านั้นเอง นานๆที ถึงจะได้เห็นฝรั่ง เห็นเด็กฝรั่งครั้งแรก มันแปลกมาก ดูไม่ค่อยเหมือนคน เดี๋ยวนี้มีคนเรียกเราว่า ลุง มากขึ้น
การศึกษา
แรกๆ เขาก็สอนให้อ่านออกเขียนได้ ต่อมาเขาก็สอนเราให้หัดคิด รู้จักคิด คิดให้ได้ คิดให้เป็น หนักๆ เข้า มาสอนเราให้คิดให้ดี เลยไปถึงขั้น คิดให้ถูก ทำให้คิดถึง ไอ้ปื้ด จิ๊กโก๋ประจำหมู่บ้าน ที่ใครๆ มักจะด่ามันว่าเป็นคนไม่มีหัวคิด โตขึ้นมาหน่อย เขาก็สอนให้รู้จักนักคิด เราและเพื่อนๆ ตอนนั้นก็คิดจะเป็นนักคิด คิดๆ แล้วการจะเป็นนักคิด มันต้องคิดอะไร คิดมากแค่ไหน แล้วถ้ามันคิดไม่ออกละ เขาจะยอมให้เราเป็นนักคิดไม่ออกได้ไหม
พอเริ่มเป็นลุง ได้พบเพื่อนเก่ากับพระภิกษุสงฆ์องค์หนึ่งอยู่บนภูเขา ชวนกันพูดคุยถึงคนๆ หนึ่งที่เกิดเมื่อ 2500 กว่าปีก่อน คนๆ นั้นพูดเรื่อง การดับความคิดเขาสอนให้เราหัดคิด เราคิดเป็น เราเริ่มคิดได้ จนเกือบจะได้เป็นนักคิด แต่โชคยังดี เราคิดไม่ออกเสียก่อน คิดไม่ออกจึงลงนั่งคุยกับคนลำพูนที่พูดฟังยากกับพระภิกษุสงฆ์ที่พูดน้อยเท่าที่จำเป็น แต่ก็ไม่ยากเกินและก็ไม่น้อยเกินไป เพราะเราพูดกันเรื่อง การดับความคิด เท่านั้นการศึกษาเห็นจะมีเพียงเท่านี้ จะให้บอกว่า จบ ป.อะไร ม.เท่าไหร่ คงบอกไม่ได้ เพราะเรียนมาถึงแค่คิดไม่ออกนี่เอง
แนวความคิดในการทำงานศิลปะ
คิดว่า ยังคิดไม่ออกดีที่สุด
แถลงการณ์ของศิลปิน ผมเพิ่งเข้าใจว่าศิลปะมันเป็นยังไง เมื่อไม่นานมานี้เอง






เกี่ยวกับศิลปิน

                    มิตร ใจอินทร์ เกิดที่ อ. สันกำแพง หวัดเชียงใหม่ เคยบวชเณร หนีออกจากบ้าน และเป็นนักมวยสมัครเล่น ก่อนจะสอบเข้าเรียนที่คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร แต่ไม่จบการศึกษา เพราะว่าไม่เห็นด้วยกับระบบและวิธีการของการศึกษาศิลปะในสถาบันอุดมศึกษา หลังจากนั้นเดินทางเร่ร่อนไปใช้ชีวิตอยู่ทีประเทศออสเตรียและเยอรมนี ศึกษาปรัชญาตะวันตกนอกห้องเรียน ก่อนจะกลับมาทำงานศิลปะอยู่ที่จังหวัดลำพูน จนถึงปัจจุบัน 
มิตร ใจอินทร์ เป็นที่รู้จักในวงการศิลปะร่วมสมัยของเชียงใหม่มานานกว่าสามสิบปี แม้จะมีชีวิตที่ผกผันไปตามสถานการณ์ มิตรก็ยังปฏิบัติจิตรกรรมกิจอยู่ไม่เคยขาดช่วงตอน นับตั้งแต่เขาได้เข้าศึกษาในโรงเรียนสิริกรศิลปวิทยาในปี1978เป็นต้นมา นิทรรศการครั้งนี้เป็นการแสดงงานศิลปชนิด Solo ครั้งแรกของเขาในภาคเหนือ หลังจากงานนิทรรศการครั้งล่าสุดของเขาที่ เว่อร์แกลลอรี่(ver gallery) เมื่อปี 2549 มีชื่องานที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลป์ว่าเลิกสนุกมาทุกข์กันเถิดครบรอบ 15 ปี ของความปริวิตกเรื่องสภาพอากาศโลก โลกทัศน์แปรเปลี่ยน สังคมพังครืน ทิฐิมานะของกระฎุมพี เชียงใหม่จัดวางสังคมและศิลปะซึ่งฉิบหายวายวอดเป็นงานที่ผู้ชมถูกกลืนกินอย่างเป็นมิตรโดยไม่ทันตั้งตัว มิตร ใจอินทร์ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2503 ที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ทำงานศิลปะอยู่ที่จังหวัดลำพูน กับกวิณีสาวสวยนาม เพ็ญ ภัคตะ





เกี่ยวกับศิลปิน


                     อังกฤษ อัจฉริยโสภณ  เกิดวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2519 ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 12 ปีมะโรง จ.ศ.1338 ลัคนาสถิตย์ราศีกันย์ ที่จังหวัดเชียงราย จบการศึกษาทางด้านศิลปะจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มร่อนเร่แสดงผลงานศิลปะครั้งแรกที่ประเทศนิวซีแลนด์ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนในปี พ.ศ. 2539 หลังจากนั้นได้จัดตั้งสโมสร "อังกฤษ แฟนคลับ" มีสมาชิกทั้งหมด 60 คน ต่อมาในปี 2541 จัดตั้ง "อังกฤษ ฟาร์ม" โดยรับผสมพันธ์เพื่อเร่งผลิตทายาทศิลปินออกสู่ตลาดศิลปะ และในปี 2542 จัดทำ "โครงการสีเหลือง" เป็นวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาตรี
หลังจากนั้นเสี่ยงเดินทางท่องเที่ยวในยุโรปเป็นเวลา 6 เดือน ด้วยความคาดหวังว่าระบบคิดจะเฉียบคมและลอกคราบกลายร่างเป็นมนุษย์ที่แท้จริงตามแบบอย่างชาวตะวันตกผู้มีตรรกะอารยธรรมอันสุดซับซ้อนซ่อนกล แต่ผิดหวัง! จากประสบการณ์ความผิดหวังเสียใจครั้งใหญ่นี้ จึงลาบวชกลายร่างเป็นพระไทยที่ประเทศเยอรมนีทดแทนตัวตนเดิม ก่อนจะร่อนผ้าเหลืองกลับมาสึกที่จังหวัดเชียงรายบ้านเกิด โดยทิ้งความสนใจใคร่รู้จากกรอบวิทยาศาสตร์เคลือบมันวาว เปลี่ยนเป็นให้ความสนใจห่วงแหนเป็นพิเศษแก่"หมีแพนด้า"ซึ่งเป็นทูตสันถวไมตรีถึง 2 ท่านที่มาประจำการในกรงสวนสัตว์เมืองไทย และมุ่งมั่นฝึกการปฏิบัติวิปัสสนาระงับจิตขั้นสูง (จากความรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นฝรั่งนั่งวิปัสสนาหรือเล่นโยคะ) บังเกิดนิมิตมงคลจึงกลับมามีความพยายามอีกครั้งที่จะเป็น"ผู้ดีแบบอังกฤษ" โดยสมบูรณ์





 
เกี่ยวกับศิลปิน

 
ชื่อ : นาย ศุภพงศ์ เหล่าธีรศิริ
เกิด : วัน พุธ ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528 จ.เชียงราย
ที่อยู่ : 902 ถ.พหลโยธิน ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000
อีเมล์ : nig_ky@hotmail.com, supapong1985@gmail.com
เว็บไซด์ : http://supapong.mono.net/

ประวัติการศึกษา

- สําเร็จการศึกษา ศิลปบัณฑิต (จิตรกรรม) เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ภาควิชาภาพพิมพ์ จิตรกรรม และประติมากรรม คณะวิจิตรศิลป์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- สําเร็จการศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจาก โรงเรียน สามัคคีวิทยาคม
- สําเร็จการศึกษา ระดับประถมศึกษาตอนปลายจาก โรงเรียน อนุบาลเชียงราย

ประวัติการแสดงผลงานทางศิลปะ นิทรรศการเดี่ยว

พ.ศ. 2551

- นิทรรศการ “Beautiful (กรุงเทพมหานคร)ณ หอศิลปวิทยนิทรรศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร

นิทรรศการกลุ่ม

พ.ศ. 2552

-ร่วมแสดงนิทรรศการ ปลอดภัยสถาน (?)” ณ เว่อร์ แกลเลอรี่ กรุงเทพมหานคร
-ร่วมแสดงนิทรรศการ “Ending To Beginning” (นิทรรศการศิลป นิพนธ์) ณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

พ.ศ. 2551

- ร่วมแสดงนิทรรศการศิลปกรรม ของ คณาจารย์ และนักศึกษา สาขา ประติมากรรม ณ ห้องนิทรรศการ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
- ร่วมแสดงนิทรรศการศิลปกรรมและผลงานวิชาการของ คณาจารย์ นักศึกษา และศิษย์เก่า ในโอกาสครบรอบ 25 ปี คณะ วิจิตรศิลป์ ณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

พ.ศ. 2550
- ร่วมแสดงนิทรรศการ “The Tower of  Babel Project” ณ อาคารสาขาวิชาสื่อศิลปะ และการออกแบบ (Media Arts and Design) หอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
- ร่วมแสดงนิทรรศการ P P A S S “This is not pass” ณ ฝ้ายซอ คําแกลลอรี จ.เชียงใหม่
- ร่วมแสดงศิลปะแสดงสด (Performance Art) ในงานสัมมนา โลกร้อน วิกฤติที่มีโอกาสณ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
- ร่วมแสดงนิทรรศการผลงานวิจัยของ อาจารย์ บุคลากร และ นักศึกษา คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจําปี พ.ศ. 2550” ณ ห้องนิทรรศการ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

พ.ศ. 2549
-ร่วมแสดงนิทรรศการศิลปะกับสภาพแวดล้อม “Green and Blue Exhibition” ณ อ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

พ.ศ. 2548
- ร่วมแสดงนิทรรศการ เทคนิคจิตรกรรมณ โรงประลอง จิตรกรรม คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
-ร่วมแสดงนิทรรศการ “ONE BY ONE” ณ หอศิลปวัฒนธรรม เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่







เกี่ยวกับศิลปิน


Tawan Wattuya
Born
1973 Bangkok, Thailand.
Education
2000 B.F.A in painting, the Faculty of Painting, Sculpture and Graphic Arts, Silpakorn University, Bangkok, Thailand

Solo Exhibition
2010  - “Uniform/Uniformity” Tang Contemporary Art, Bangkok, Thailand
          - “Tawan Wattuya”, Galerie Compagnies du Monde, Paris, France
          - “Bimbos, Stars & Super Heroes”, Toot Yung gallery, Bangkok Thailand  
              China International Gallery Exposition, Beijing, China
2007  - “Siamese Freaks”, Numthong Gallery, Bangkok, Thailand
2005  - “500” Sarazine Gallery, Bangkok, Thailand
2001  - “Lonely People” Burapha University Art Gallery, Bangsaen, Chonburi
2000  - “Wester Japan Merger” The gallery by Cocoon, Bangkok, Thailand

Group Exhibition

2009  - “Boardsheet Notations:Epilogue”, Tang Contemporary Art, Bangkok, Thailand
          - “Story of the eye”, Gossip Gallery, Bangkok, Thailand
          - “La Thailande vous sourit” Chapelle Saint Julien, Salinelles, France
          - “Aesthetics of body”, Artery, Bangkok, Thailand
2008  - “The Inner I”, GMT+ 7 Gallery, Brussels, Belguim
          - “My next Artist”, Nguyen Tan Chong Gallery, Paris, France
          - “VDO”, 856 G Gallery, Cebu, Philippine
          - “3 Young Contemporary”, Valentine Willie Fine Art, Kuala Lumpur, Malaysia
          - “No Wall”, Kurusapha building, Bangkok, Thailand
2007  - “Artist self portrait”, The Silom Galleria, Bangkok, Thailand
          - “Art on the rocks!”, Gossip Gallery, Bangkok, Thailand
          - “Art in the City”, Gayzorn Plaza, Bangkok, Thailand
2006  - 10th Anniversary, Numthong Gallery, Bangkok, Thailand
            Artist Residence “Okinawa Ocean”, Okinawa, Japan
2005  - “Face Up”, Numthong Gallery, Bangkok, Thailand
2004  - “Ode to the Period’s Difference”, Tang Gallery, Bangkok, Thailand
2003  - “Private”, Art Exhibition, Rajamagala Institute of Technology Art Gallery (Klong 6 Campus), Thailand
2002  -“Traces of Wisdom”, Tang Gallery, Bangkok, Thailand
1998  - Art Thesis Exhibition by the Graduation Class of the Faculty of Painting, Sculpture and Graphic Arts,              
            Silpakorn University, Bangkok, Thailand
1995  - “L’Art Contre Le Sida”, The 12th Exhibition of Contemporary Art by
             Young Artists, Silpakorn University, Bangkok, Thailand
             “Illustration Show 1995”, The Bangkok Playhouse, Thailand
















เกี่ยวกับศิลปิน 
            
โลเล ทวีศักดิ์ ศรีทองดี 1970

ศิลปิน นักออกแบบ

จบการศึกษาปริญญาโททางด้านศิลปะจาก คณะจิตรกรรมฯมหาวิทยาลัยศิลปากร
หลังจากนั้น..โลเลทำงานเกี่ยวกับการออกแบบและทำงานศิลปะ ควบคู่กันไป

                    ผลงานศิลปะของโลเล มักเกี่ยวกับเรื่องของมนุษย์ในมิติต่างๆ และเกี่ยวกับ มวลชน ระบบการปกครอง ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ สงคราม รวมทั้งแฟชั่น  เคยจัดแสดงในนิทรรศการครั้งสำคัญ เช่น  The 3rd Fukuoka Asian Art Triennale 2005 Fukuoka Asian Art Museum ที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2005 /ร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์(Iternational Film Festival)เมืองรอตเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ ปี 2008 /แสดงงานในอังกฤษ ปี 2001 /SOI Project  (Tout a` Fait Thai 2006) ที่ปารีส / "SHOW ME THAI "museum of contemporary art Tokyo,ประเทศญี่ปุ่นในปี 2007/แสดงงานในมหกรรมศิลปะ Jakarta Biennale XIII ที่ประเทศอินโดนีเซีย(2009)และล่าสุดในมหกรรมศิลปะBusan  Biennale ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลี

                    นอกจากนั้น โลเลยังนำเสนอผลงานศิลปะเชิงทดลองในรูปแบบวีดีโอ  Hero Project 2005,       Fresh 2006, Strawberry 2008  และผลงานศิลปะในรูปแบบหนังสือ  Undergroung Cartoon 1, 2, 3, 4, My Nonsense, Lolaytoon 008 ปัจุบัน กำลังทำโครงการ Happyband สารคดีภาพยนตร์และหนังสือ....เกี่ยวกับวงดนตรีที่เกี่ยวข้องกับอดีตและอนาคต



Lolay Thaweesak Srithongdee
Artist,Designer

Thaweesak Srithongdee was born in 1970 and graduated with a Master in Fine Art from Silapakorn University in 1996. Thaweesak is a keen observer of people, their physical and mental characteristics. Using his imagination, in his work he goes on to ponder whether people's features are related to their behavior, culture, social standing and other aspects.  As viewers react differently to various symbols, he expects his audience to see his works in a variety of ways, using different interpretations, based on personal experiences.

Thaweesak has participated in several solo and group exhibitions abroad and in Thailand.  He was awarded a residency at the Fukuoka Asian Art Museum, Japan in 2005 and participated in the Fukuoka Triennale in the same year. He took part in the International Film Festival in Rotterdam 2008 in The Netherlands with a video comprising shots of iconic portraits. Recent works have also included mega size fiberglass sculptures of his characters.  Artist,Designer





เกี่ยวกับศิลปิน

Sitthinon Phongraktham   
Born- 11 February 1983
Place of Birth Nakornsithamarat Thailand
Live&Work Bangkok Thailand
Tel. +66814-580-116
balagu01@gmail.com
getzothailand@gmail.com

Education
2007-B.F.A (Painting) Faculty of Painting Sculpture and Graphic Art Silpakorn University Bangkok Thailand
2001-Nakornsithamarat Collage oF Fine Art Thailand
Art book
2009- Artists An International Network Volume II ( http://www.blurb.com/books/878055 )
2009 - ITYM WAR Art book ( http://itymbook.blogspot.com/ )
Solo Exhibition
2009- The Story From My Mind At Pla Dib restaurant & Gallery Bangkok Thailand
Group Exhibition
2009-No Wall Art exhibition At Kyoto Japan
2009 - itym war artexhibition At.. Whitespace Gallery Bangkok Thailand
2008- No Wall Art and Frindship at ku ru sapa printing house pra ar thit road Bangkok thailand
-Thesis Art Exhibition At SilpakornUniversity Bangkok Thailand
2007 -Sor.Kor.Sor Art happiness at Taducontemporaryart Bangkok Thailand
-24hrs.Art Project at deserted home Soi Sukumvit23 bangkok Thailand
-The Mekong Art And Culture Project Art on The Beach At Surin island Phangnga Thailand
2006-Digital Art Exhibition at P.S.G. Gallery Silpakorn University Bangkok Thailand
-VedioArt Exhibition at Ver gallery Bangkok Thailand
2001-Painting Exhibition at Nakornsithamarat Collage oF Fine Art
2000-Ceramic Exhibition at Nakornsithamarat Collage oF Fine Art




















เกี่ยวกับศิลปิน

                    ยุรี เกนสาคู เกิดวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2522 ที่กรุงเทพมหานคร จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาทัศนศิลป์ จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และได้เข้าร่วมโครงการ Residency Program “The Adventure of Momotaro Girl”, Artist in Museum YOKOHAMA 2007 ที่ Yokohama Museum of Art ประเทศญี่ปุ่นในปี 2550 ยุรีเริ่มต้นแสดงผลงานเดี่ยวจากโครงการศิลปกรรม Brand New 2004 และกลายเป็นศิลปินหญิงที่มาแรงในฐานะคลื่นลูกใหม่ของวงการศิลปะร่วมสมัยที่มีจุดเด่นในการใช้สีสันบอกเล่าจินตนาการ และเน้นการทดลองใช้เทคนิคที่หลากหลาย ภายใต้การนำเสนอประเด็นของความรักหลากหลายแง่มุม ผ่านการตั้งคำถามเกี่ยวกับการ "มีอยู่" และ "การเก็บรักษา" สิ่งที่เรียกว่า "ความรัก" รวมถึง"การพลัดพราก" และ "ความโดดเดี่ยวของมนุษย์" ที่แฝงอยู่ในตัวงานที่มีสีสันจัดจ้าน หลังจากนั้นยุรีจึงได้รับเชิญให้เข้าร่วมแสดงผลงานในนิทรรศการหลายครั้ง อาทิ “Experience Art Exhibition (Project Zero)” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, “Inspired by the King” ที่เพลย์กราวด์, “One On Other, Work shop and exhibition, About Caf, “รักเลี่ยมเศวตสุวรรณหอศิลปวิทยนิทรรศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, “ร้อยแปดเหตุผลคนลืมตัว (108 paths to Vanity)”  และ สปิริช่วลดีจริงๆ (It's Spiritually Good!)” 100 ต้นสน Galler



















เกี่ยวกับศิลปิน

                    ถ้าหากคุณเป็นคนที่อยู่ในกระแสร่วมสมัยประเภทดูหนัง ฟังเพลงประมาณหนึ่งน่าจะพอได้ยินเพลงของศิลปินจากเชียงใหม่ที่ชื่อจุ๋ย จุ๋ยส์กันมาบ้าง ในอัลบั้มใหม่ของจุ๋ย จุ๋ยส์ นอกจากเพลงที่ดูคล้ายจะเป็นเพลงภาษาญี่ปุ่น (อีกครั้ง) กับเพลงถอดบทเรียนภาษาอังกฤษบทที่หนึ่งที่ติดหูได้ไม่ยาก แล้วยังมีแทรคที่น่าสนใจอีกแทรคหนึ่งชื่อ ย้อนแยงที่เนื้อหา ทำนอง และการนำเสนอเข้าท่าทีเดียว หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าชื่อเพลงนี้มีที่มาจากชื่อกลุ่มศิลปินเลือดใหม่ของเชียงใหม่ที่รวมตัวกันทำกิจกรรมทางศิลปะในจริตและ จารีตที่แตกต่างและหลาก-หลาย อาทิ ทำงานเพ้นติ้งด้วยน้ำพริก ทำหนังสือ เปิดร้านขายน้ำจิ้ม ทำก๋วยเตี๋ยวเรือ เป็นต้น นิตยสาร HIP ฉบับล่าสุดมีบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้นำกลุ่มนี้เอาไว้ว่า ชื่อศีลวัตภ์ รมยานนท์ คงไม่คุ้นเคยกับพวกเราชาวเชียงใหม่เท่ากับชื่อ จั้งเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น ฮาเทหน้านิมมาน-เหมินท์ ซอย 11 และเป็น จั้งคนเดียวกับอดีตนักศึกษาศิลปะคณะวิจิตรศิลป์ มหา-วิทยาลัยเชียงใหม่.รุ่น 10 ที่ปัจจุบันทำงานศิลปะ แหวกแนวกับบรรดาผองเพื่อน ในนามบริษัทย้อนแยงสุนทรียะและสหาย
ย้อนแยงเป็นคำที่ฟังแล้วรู้สึกถึงอาการ ยั่วยุทางปัญญาทั้งกับสังคมและในหมู่คนทำงานสร้างสรรค์ด้วยกันเอง ถ้าหากแยกคำออกมาเป็นย้อนกับ แยงเราจะพอเข้าใจความหมายของมันมากยิ่งขึ้น ย้อนหมายถึงกลับไปทางเดิม ส่วนแยงเป็นภาษาท้องถิ่นหมายถึง ดูพอมารวมกันจึงน่าจะหมายถึงการถอยออกมาดู ซึ่งเวลาฟังแบบไม่ต้องรู้ความหมายเป๊ะๆ จะได้อารมณ์กว่าเยอะเลย
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ประกาศพันธะสัญญาของรัฐบาลภายใต้โครงการเข้มแข็งออกมา 12 ข้อ ฟังดูดีทุกข้ออยู่ แม้จะยังไม่รู้จะออกมาเป็นรูปธรรมเช่นไร อย่างพันธะสัญญาที่ 5: สนับสนุนทักษะช่างเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบดีไซน์ ศิลปะแขนงต่างๆ และรวมทั้งเพิ่มจำนวนบุคลากรและกำลังคนที่มีขีดความสามารถในด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือพันธะสัญญาที่ 8: จัดให้มีพื้นที่กิจกรรมและแสดงผลงานที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นในสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและส่วนภูมิภาค เช่น พื้นที่ทัศนศิลป์ พื้นที่ศิลปะการแสดง เพื่อเปิดกว้างให้นักคิด นักสร้างสรรค์นำเสนอผลงานสร้างสรรค์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย





ผู้สนับสนุน